การบริหารจัดการความเสี่ยง
นโยบายและแผนการบริหารความเสี่ยง
เพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน คณะกรรมการบริษัทร่วมกับฝ่ายบริหารได้มีการจัดการและบริหารความเสี่ยงแบบ
บูรณาการ กล่าวคือร่วมกันในกระบวนการขั้นตอนตั้งแต่ต้น การวางแผนร่วมกัน การพัฒนายุทธศาสตร์ร่วม (common strategy) และการแบ่งบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ พร้อมกับการร่วมกันทำหน้าที่อย่างผสมกลมกลืน และยังสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ The Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission (COSO) Enterprise Risk Management พร้อมทั้งพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยมีวัตถุประสงค์หลักให้บริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและควบคุมความเสี่ยงอันเกิดจากภายในและภายนอกให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยฝ่ายบริหารได้ติดตามดำเนินการตามแผนงานจัดการความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ และรายงานผลให้คณะกรรมการบริหารรับทราบเพื่อรายงานต่อ คณะกรรมการความเสี่ยง และคณะกรรมการบริษัทเป็นประจำทุกปี เพื่อร่วมกันพิจารณาความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้ครอบคลุมทั้งองค์กร หรือรายงานเมื่อมีเหตุการณ์บ่งชี้ที่สำคัญเพื่อสามารถประเมินและติดตามผลการบริหารจัดการความเสี่ยง พร้อมทั้งร่วมกันกับฝ่ายจัดการในการปรับปรุงแผนงานบรรเทาความเสี่ยงให้เป็นปัจจุบันเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ปัญหา อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ทันเวลาต่อไป
ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์และการประกอบธุรกิจ
1. ความเสี่ยงจากลูกค้ารายใหญ่
ในอดีตบางปีบริษัทมีลูกค้ารายใหญ่ที่มียอดขายคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 10 ของยอดขายรวม ปี 2565 บริษัทมีลูกค้า
รายใหญ่ที่มียอดขายคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 10 ของยอดรายได้รวม จำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าในทวีปอเมริกาที่สั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากนโยบายส่งเสริมตลาดแก๊สปิโตรเลียมเหลวในการใช้ประกอบอาหารและการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และผลจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ทำให้ไทยได้เปรียบจีนในด้านอัตราภาษีนำเข้าที่ต่ำกว่า ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงในประเทศลูกค้าเพิ่มสูงขึ้นมากจึงหันมานำเข้าแทน อย่างไรก็ตามบริษัทไม่มีลูกค้ารายใดที่มียอดขายมากกว่าร้อยละ 30 ของรายได้รวม
บริษัทมีแนวทางป้องกันความเสี่ยงโดยกระจายสัดส่วนการขายไปยังภูมิภาคต่างๆ และการเข้าไปขายในพื้นที่ตลาดใหม่ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของลูกค้า ซึ่งโดยปกติลูกค้าต่างภูมิภาคจะมีความต้องการใช้ถังแก๊สต่างช่วงเวลา ทำให้บริษัทสามารถวางแผนการผลิตได้สม่ำเสมอตลอดทั้งปี นอกจากนี้บริษัทมีความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้ารายใหญ่ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีจากคุณภาพสินค้าที่ดีอย่างสม่ำเสมอ การจัดส่งที่ตรงตามเวลาที่ลูกค้ากำหนดและราคาขายที่
สมเหตุสมผล จึงได้รับคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง
2. ความเสี่ยงเกี่ยวกับสินค้าทดแทน
ปัจจุบันนี้สินค้าที่สามารถนำมาใช้ทดแทนถังแก๊สที่ผลิตจากเหล็กได้ คือ ถังแก๊สที่ผลิตจากอลูมิเนียม และ ถังแก๊สที่ผลิต
จากวัสดุผสม (Composite Material) หรือ ถัง Composite ซึ่งเป็นถังที่มีน้ำหนักเบากว่าถังเหล็กทั่วไป
จากการติดตามสถานการณ์ตลาดของถังทั้ง 2 ประเภทนี้ พบว่ายังไม่เป็นที่นิยมของตลาด เนื่องจากการให้ค่าพลังงานความร้อน ความคงทน และอายุการใช้งานสั้นกว่าถังเหล็ก รวมถึงราคาขายที่สูงกว่าถังเหล็กมาก ดังนั้นความนิยมจึงจำกัดอยู่เพียงบางประเทศที่มีกฎหมายแรงงานในการจำกัดการยกของหนักเท่านั้น นอกจากนี้จากการที่นานาชาติตื่นตัวและรณรงค์ให้ผลิต หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เหล็กยังคงเป็นวัตถุดิบที่เป็นที่นิยม เนื่องจากถังเหล็กสามารถนำมาซ่อมแซมหรือรีไซเคิลได้ อันจะเป็นการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นในระยะสั้นบริษัทจึงเชื่อมั่นว่าความเสี่ยงเกี่ยวกับสินค้าทดแทนถังเหล็กจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทมากนัก อย่างไรก็ตามเพื่อขยายฐานลูกค้าและตอบสนองความต้องการของตลาด ในปี 2556 บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานสหภาพยุโรป (EN Standard) ในการผลิตถังน้ำหนักเบา (Light-Weighted Cylinder) ที่มีคุณสมบัติเด่น คือ น้ำหนักเบาใกล้เคียงถัง Composite และ ทนทานเทียบเท่าถังเหล็กทั่วไป อีกทั้งราคายังถูกกว่าถัง Composite ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดในอนาคต นอกจากนี้จากการที่บริษัทอยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมถังแก๊สมาเป็นเวลานาน ทำให้มีพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในตลาด ดังนั้นบริษัทสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์รองรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ทันการ
3. ความเสี่ยงจากการเกิดคู่แข่งรายใหม่ในต่างประเทศ และการกีดกันจากประเทศผู้นำเข้าถังแก๊ส
ลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา หรือเริ่มพัฒนา ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการใช้แก๊สต่อประชากรอยู่ในระดับ
ต่ำมาก เนื่องจากเพิ่งเริ่มมีการลงทุนในด้านโรงเก็บและบรรจุแก๊ส ผู้ผลิตในประเทศเหล่านั้นจึงเป็นบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้นเข้ามาในธุรกิจการผลิตถังแก๊ส และยังไม่สามารถผลิตถังแก๊สที่ผ่านมาตรฐานที่กำหนดได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการใช้แก๊สในประเทศเหล่านั้น ดังนั้นรัฐบาลของประเทศนั้นจึงสนับสนุนและเปิดโอกาสให้นำเข้าถังแก๊สเพื่อนำมาใช้ในประเทศ อย่างไรก็ตามหากผู้ผลิตท้องถิ่นสามารถพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตและเพิ่มกำลังการผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศแล้ว อาจจะกระทบต่อยอดขายในอนาคตของบริษัท นอกจากนี้ด้วยปัจจัยภายนอกเรื่องนโยบายการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ได้แก่ มาตรการของสหรัฐอเมริกาเปิดการไต่สวนการทุ่มตลาดและการอุดหนุนของสินค้าถังแก๊สที่นำเข้าจากประเทศไทย และประเทศจีน ก็อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายในอนาคตของบริษัท
บริษัทติดตามข่าวสถานการณ์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ และอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของโอกาสการขยายการลงทุนไปในประเทศที่คาดว่าจะมีศักยภาพรวมถึงพิจารณาความเสี่ยงด้านต่างๆที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะร่วมเป็นผู้นำตลาดให้กับโรงงานผู้ผลิตที่มีศักยภาพให้ขายในนามของแบรนด์ SMPC ส่วนผลกระทบจากนโยบายทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศนั้นเบื้องต้นส่งผลดีกับยอดขายของบริษัทบริษัทที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมมาตรการรับมือได้ทันการณ์
4. ความเสี่ยงจากการสูญเสีย และขาดผู้สืบทอดตำแหน่งผู้บริหารสำคัญ
บริษัทมีความเสี่ยงจากการสูญเสีย และขาดผู้สืบทอดตำแหน่งผู้บริหารสำคัญ ซึ่งอาจทำให้กระทบกับการบริหารจัดการที่มี
ประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง อันจะนำไปสู่ผลประกอบการที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายและการพัฒนาหรือการเติบโตทางธุรกิจอาจมีการชะลอตัว
บริษัทตระหนักถึงผลกระทบที่สำคัญจากปัญหาดังกล่าว จึงได้สร้างโครงสร้างอำนาจดำเนินการตามลำดับชั้น เพื่อกระจายความรับผิดชอบให้ผู้บริหารระดับสูงและระดับกลางมากขึ้น ทำให้ผู้บริหารสามารถทำงานแทนกันได้โดยเป็นไปตามการควบคุมของระบบควบคุมภายใน เช่น ภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนการทำงานของแต่ละส่วนงาน และตามลำดับอำนาจดำเนินการ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้บริหารโดยการส่งผู้บริหารเข้าอบรมในหลักสูตรต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ และลดการพึ่งพิงผู้บริหารบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นดังกล่าว นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผนสืบทอดผู้บริหารเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ โดยคณะกรรมการสรรหาได้มอบหมายฝ่ายบริหารให้เร่งพิจารณาแนวทางดำเนินการที่เหมาะสม
5. ความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์
ความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะ
ระบบงานต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ระบบเครือข่าย (Network) ระบบการเงินการบัญชี ระบบการบริหารงานภายในและทรัพยากรบุคคล ซึ่งระบบงานดังกล่าวมีข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทครอบครองด้วย หากเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทครอบครอง ย่อมส่งผลกระทบการดำเนินงานและชื่อเสียงของบริษัท
บริษัทจึงได้วางแผนและดำเนินการเพิ่มการลงทุนพัฒนาระบบงานเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และการป้องกันความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ได้แก่ การปรับปรุงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Network) และเครื่องแม่ข่าย (Server) เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และกำหนดมาตรการควบคุมความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ได้แก่ ระบบรักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ (Firewall) การกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล การวางเครือข่ายตั้งศูนย์สำรองข้อมูลเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
6. ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ
บริษัทฯ อาจเสี่ยงต่อการเกิดภัยธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้การผลิตหยุดชะงักและก่อความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อบริษัทฯ
หรืออาจจะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น เส้นทางคมนาคมระหว่างทางจัดส่งสินค้าถูกตัดขาด ทำให้จัดส่งสินค้าล่าช้า บริษัทตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ประเมินความเสี่ยงและบรรจุไว้เป็นส่วนหนึ่งของทะเบียนความเสี่ยงของบริษัท พร้อมทั้งดำเนินการวางแผนรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ถึงแม้ว่าบริษัทจะไม่เคยรับผลกระทบและความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แต่ได้เตรียมแผนป้องกันอย่างสม่ำเสมอ โดยการติดตามข่าวสาร การบำรุงรักษาและตรวจสภาพของอุปกรณ์ป้องกันภัยให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน พร้อมทั้งจัดหาอุปกรณ์ให้เพียงพอต่อสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น รวมถึงประเมินผลกระทบจากแผนการรับมือเรื่องภัยธรรมชาติของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดซื้อแผนประกันภัยที่เหมาะสมเพื่อบรรเทาภาระความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
7. ความเสี่ยงจากการทุจริตคอร์รัปชัน
บริษัทฯ ตระหนักดีว่าการทุจริตคอร์รัปชันเป็นอุปสรรคที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศและการดำเนินธุรกิจ ซึ่งตลอดระยะ
เวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจของบริษัทที่จะไม่ยอมรับการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบพร้อมทั้งกำหนดเป็นนโยบายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นเผยแพร่สำหรับพนักงานและผู้บริหารเป็นแนวทางในการปฏิบัติ
บริษัทได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (Private Sector Collective Action Against Corruption : CAC) ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2559 โดยมีการกำหนดนโยบายต่อต้านการคอร์รัปชันและระเบียบปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบาย มีคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการบริษัทพิจารณาติดตามผลการดำเนินงานในการต่อต้านการคอร์รัปชัน ทั้งยังจัดให้มีช่องทางการแจ้งเบาะแสและมีมาตรการคุ้มครองผู้ร้องเรียน โดยจัดทำเป็นคู่มือการปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านการคอร์รัปชันสำหรับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนรวมถึงคู่ค้าที่เกี่ยวข้องได้รับทราบผ่านช่องทางอินทราเน็ตของบริษัทฯ ตลอดจนมีการประเมินความเสี่ยงด้านการทุจริตและกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันอย่างรัดกุม เพียงพอและต่อเนื่อง บริษัทได้รับการต่ออายุการรับรองมาโดยตลอดล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2564 บริษัทได้รับการอนุมัติให้ต่ออายุการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตครั้งที่ 2 ต่อไปอีก 3 ปีถึงเดือนมกราคม 2568
ความเสี่ยงด้านการบริหารจัดการและการปฏิบัติงาน
1. ความเสี่ยงเกี่ยวกับการขาดแคลนวัตถุดิบและความผันผวนของราคาเหล็ก
เหล็กแผ่นรีดร้อน (Hot Rolled Steel) เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตถังแก๊สคิดเป็นประมาณ 50%-60% ของต้นทุนรวม ซึ่งไม่
สามารถใช้วัตถุดิบอื่นมาทดแทนได้ แต่เนื่องจากมีผู้ผลิตหลายรายทั่วโลก ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนวัตถุดิบ
ความผันผวนของราคาเหล็กส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาขาย ต้นทุน และกำไรของบริษัท โดยปกติในอุตสาหกรรม
การกำหนดราคาขายนั้น จะอ้างอิงจากดัชนีราคาเหล็กในตลาดโลก ซึ่งจะผันแปรตามภาวะเศรษฐกิจและต้นทุนราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ถ้าราคาเหล็กในตลาดโลกลดลง ราคาขายก็จะลดลง ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่บริษัทจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการขายและกำไรตามประมาณการที่กำหนดไว้ได้ นอกจากนี้สินค้าของบริษัทเป็นงานสั่งทำตามแบบที่ลูกค้ากำหนด ซึ่งมีระยะเวลาผลิตจนกระทั่งลูกค้าได้รับสินค้า (Lead Time) ประมาณ 2 เดือน ทำให้ในบางช่วงราคาต้นทุนวัตถุดิบมีความแตกต่างจากราคาขายที่กำหนดไว้ บริษัทจึงต้องมีการวางแผนการผลิต การขาย และการบริหารสินค้าคงคลังที่ดีเพื่อลดความผลกระทบจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติของธุรกิจ
สำหรับการขายแบบสัญญาระยะยาว ปกติในสัญญาจะระบุให้บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนราคาขายให้เป็นไปตามราคาปัจจุบันของเหล็ก (Formula Price) ทำให้ผลกระทบในเรื่องดังกล่าวมีไม่มากนัก ส่วนการขายแบบเป็นคำสั่งซื้อต่อครั้ง บริษัทบริหารจัดการโดยสั่งซื้อเหล็กซึ่งจะเป็นราคาในช่วงเวลาเดียวกับขณะที่บริษัทเสนอราคา เพื่อลดผลกระทบจากราคาที่ผันผวนที่เกิดขึ้น ในกรณีที่เป็นคำสั่งซื้อขนาดใหญ่มีระยะเวลาการส่งนานหลายเดือน บริษัทจะทำสัญญาตกลงซื้อขายเหล็กล่วงหน้ากับผู้ผลิตเหล็กเพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาวัตถุดิบ นอกจากนี้เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารการผลิต และการขาย เมื่อราคาเหล็กลดลงบริษัทจะสั่งซื้อเหล็กบางขนาดที่ใช้เป็นประจำเพื่อสำรองเป็นสินค้าคงคลัง โดยพิจารณาปริมาณสั่งซื้อที่เหมาะสมจากแผนการขาย บวกกับการคาดการณ์ปริมาณความต้องการของลูกค้าโดยอาศัยข้อมูลการสั่งซื้อในอดีตและสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้น นอกจากนี้บริษัทยังติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาวัตถุดิบในตลาดอย่างใกล้ชิด โดยอาศัยประสบการณ์ที่ยาวนานในอุตสาหกรรมเพื่อประกอบการคาดการณ์สภาวะราคาเหล็กในตลาดก่อนการตัดสินใจสั่งซื้อ ก่อนการสั่งซื้อทุกครั้งบริษัทเปรียบเทียบราคาจากผู้จำหน่ายเหล็กหลายรายที่มีศักยภาพใกล้เคียงกันเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพตามต้องการในราคาและเงื่อนไขที่ดีที่สุด ซึ่งการบริหารจัดการข้างต้นยังช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าไม่ทันเวลา เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน ลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาวัตถุดิบ (Holding Cost) และค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อวัตถุดิบ (Reordering Cost) ด้วย
สำหรับการจัดการความเสี่ยงเรื่องราคาวัตถุดิบที่ผันผวนที่อาจทำให้ บริษัทไม่สามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายและกำไรที่ตั้งไว้ได้นั้น ฝ่ายจัดการได้ติดตามแนวโน้มราคาเหล็กเป็นประจำในการประชุมทุกเดือน เพื่อที่จะได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขายและการซื้อวัตถุดิบได้ทันเวลา หรือบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
2. ความเสี่ยงจากการขาดแคลนแรงงาน
เนื่องจากกระบวนการผลิตของบริษัทเป็นกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automatic) ซึ่งเป็นข้อดีและจุดแข็งอย่างหนึ่งของบริษัท
นั่นคือ ทำให้สายการผลิตของบริษัทยืดหยุ่น สามารถผลิตถังได้หลากหลายประเภทและขนาด ซึ่งกระบวนการผลิตแบบกึ่งอัตโนมัตินี้จำเป็นต้องใช้แรงงานเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตในหลายขั้นตอน และในกระบวนการจัดส่งสินค้าก็จำเป็นต้องใช้แรงงานในการลำเลียง และบรรจุถังเข้าตู้คอนเทนเนอร์ ดังนั้นจำนวนแรงงาน ประสิทธิภาพและความชำนาญงานของแรงงาน จึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อธุรกิจของบริษัท
บริษัทได้พัฒนาปรับปรุงเทคโนโลยีในการผลิต โดยการติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยบริษัทได้เริ่มพัฒนาหุ่นยนต์และนำระบบสายการผลิตอัตโนมัติมาทดแทนเครื่องจักรแบบเดิมในกระบวนการผลิต พบว่าประสิทธิภาพในการผลิตดีขึ้น ของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตลดลง และยังช่วยลดการใช้แรงงานในการผลิต ซึ่งบริษัทมีโครงการที่จะพัฒนาและติดตั้งระบบการผลิตแบบอัตโนมัติเพิ่มเติมสำหรับขั้นตอนการผลิตอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยบริษัทคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนเป็นหลักสำคัญ โดยบริษัทมีระบบการจ่ายผลตอบแทนแก่แรงงานอย่างเหมาะสมตามความสามารถและความชำนาญของแรงงานและสามารถแข่งขันได้ อีกทั้งบริษัทมีนโยบายในการให้สวัสดิการพนักงานที่จูงใจ พร้อมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการสวัสดิการฯ เพื่อเป็นตัวแทนของพนักงานในการติดต่อกับบริษัทถึงข้อเสนอแนะและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี โดยมุ่งหวังสนับสนุนให้พนักงานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเพื่อให้สามารถรักษาแรงงานที่มีฝีมือและประสบการณ์เอาไว้ได้
ความเสี่ยงด้านการเงิน
1. ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
บริษัทในฐานะผู้ประกอบการส่งออกเป็นหลัก (สัดส่วนส่งออกทั่วโลกมากกว่า 90% ของยอดขาย) มีรายรับที่เป็นเงินตรา
ต่างประเทศจากการทำธุรกรรมด้านการค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ยูโร และปอนด์สเตอร์ลิง ดังนั้นความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนจึงส่งผลกระทบกับรายได้และกำไรของบริษัท
รายได้ของบริษัทส่วนใหญ่ได้รับเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และมีการนำเข้าวัตถุดิบหลัก คือ เหล็กแผ่นรีดร้อนและวัตถุดิบอื่นที่ใช้ในการผลิตจากต่างประเทศมาในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน โดยในปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทนำเข้าวัตถุดิบคิดเป็นประมาณ 75% ของปริมาณความต้องการทั้งหมดที่ใช้ในการผลิต ดังนั้นบริษัทจึงใช้วิธีป้องกันความเสี่ยงแบบ Natural Hedge โดยการนำรายได้จากการขายสินค้าที่เป็นสกุลเงินเดอลลาร์สหรัฐมาจ่ายชำระค่าวัตถุดิบที่เป็นเงินสกุลเดียวกัน ทำให้ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่มาก สำหรับรายได้จากการขายที่เป็นเงินสกุลอื่น (ยูโร และปอนด์สเตอร์ลิง) ได้มีการติดตามดูแลอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด รวมถึงการพิจารณาปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย เพื่อที่สามารถวางแผนการเงิน รวมทั้งใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ได้แก่ การซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเพิ่มเติม อีกทั้งยังมีการรายงานแนวโน้มและสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนในที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารเพื่อติดตามสถานการณ์เป็นประจำทุกเดือน
2. ความเสี่ยงการให้สินเชื่อทางการค้า
บริษัทมีความเสี่ยงจากการที่ลูกหนี้ชำระล่าช้า หรือผิดนัดชำระ ทำให้อาจเสียผลประโยชน์ได้
โดยปกติบริษัทมีนโยบายทางการเงินในด้านการขาย โดยการให้เปิด L/C หรือชำระเงินมัดจำล่วงหน้าบางส่วนหรือทั้งจำนวนก่อนการจัดส่งสินค้า บริษัทมีการพิจารณาวงเงินสินเชื่อ (Credit Limit) ที่เหมาะสมและตามสถานการณ์พิเศษ พร้อมกำหนดอำนาจอนุมัติที่ชัดเจน โดยปกติระยะเวลาการให้สินเชื่อแก่ลูกค้า มีระยะเวลาตั้งแต่ 30-90 วันขึ้นอยู่กับการพิจารณาสถานะทางการเงินประกอบกับระยะเวลาที่บริษัทซื้อขายกับลูกค้า นอกจากนี้บริษัทยังกำหนดให้มีการทบทวนนโยบายการให้สินเชื่อและวงเงินสินเชื่อของลูกค้าทั้งหมด พร้อมทั้งพิจารณาความเสี่ยงจากการให้สินเชื่ออย่างสม่ำเสมอทุกปี โดยพิจารณาจากงบการเงินของลูกค้าเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือในฐานะทางการเงิน รวมถึงพิจารณาทบทวนเพิ่มเติมหากมีสถานการณ์พิเศษ เช่น สถานการณ์ Covid-19 อย่างไรก็ตามลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นบริษัทผู้ค้าแก๊สและน้ำมันระดับโลกที่มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง ทำให้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน บริษัทยังไม่พบปัญหาในเรื่องการผิดนัดชำระหนี้จากลูกค้า
ความเสี่ยงด้านกฏระเบียบและกฏหมาย
1. ความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
บริษัทอาจมีความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องฉบับใหม่ที่จะออกเพิ่มเติมหากไม่สามารถติดตามข่าวสาร
ได้ทัน ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกสั่งให้ชำระค่าปรับหรืออาจถูกระงับการประกอบกิจการชั่วคราว
เพื่อป้องกันผลกระทบต่อการผลิตและการดำเนินงานของบริษัท บริษัทได้ให้แต่ละฝ่ายรวบรวมข้อมูลพร้อมติดตามข้อมูลของกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ และให้หน่วยงานบริหารระบบ เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลกฎหมายจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบสถานะดำเนินการในการต่ออายุใบอนุญาตต่างๆ รวมถึงการดำเนินการให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายฉบับใหม่
ความเสี่ยงด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
1. ความเสี่ยงจากการจัดการของเสียจากกระบวนการผลิต และการเกิดคดีความด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต
บริษัทมีของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตซึ่งอาจกระทบกับสิ่งแวดล้อม ถ้าบริษัทไม่ได้ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตามบริษัทตระหนักถึงพันธกิจที่จะให้การดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงสำคัญที่กระทบกับบริษัท และอาจนำไปสู่การเกิดคดีความด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต
บริษัทได้จัดตั้งศูนย์ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งมีหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรงในการควบคุมและจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ และมีหน่วยงานฝ่ายบริหารระบบดำเนินการรวบรวมกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งติดตามสถานะในการดำเนินการ ในส่วนการกำจัดกากอุตสาหกรรมที่บริษัทไม่สามารถบำบัดหรือกำจัดได้เองในการผลิต บริษัทได้ว่าจ้างบริษัทภายนอกที่มีใบอนุญาตรับรองเพื่อจัดการกับของเสียจากการผลิตโดยเฉพาะ นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการรับรอง ISO 14001:2015 มาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2560 และได้รับการอนุมัติให้ต่ออายุการรับรองมาโดยตลอด ล่าสุดถึงเดือนกรกฎาคม 2567
ความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อสิทธิหรือการลงทุนของผู้ถือหลักทรัพย์
1. ความเสี่ยงจากการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายการบริหารงาน
บริษัทมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางรายดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทและ กรรมการบริหาร และ/หรือ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
ลงนามผูกพันบริษัท จึงอาจมีความเสี่ยงจากการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ดังกล่าวมีอิทธิพลต่อการพิจารณาแนวทางการดำเนินงาน หรือกำหนดนโยบายการบริหารงานไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง รวมถึงใช้อำนาจในการกำหนดและดำเนินการเรื่องนโยบายการบริหาร หรือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของบริษัท และอาจเกิดรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรือรายการที่เกี่ยวโยงกันที่ไม่เป็นธรรม และไม่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท
บริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่ประกอบด้วยกรรมการอิสระที่ไม่มีส่วนได้เสียกับบริษัท เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท โดยมีผู้ตรวจสอบภายใน outsource ที่เป็นมืออาชีพ ช่วยตรวจติดตามความเพียงพอของระบบการควบคุมภายในอย่างสม่ำเสมอ บริษัทมีการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี พร้อมทั้งติดตามให้มีการปฏิบัติตามแนวทางที่วางไว้ และปฏิบัติตามกฏหมาย หลักเกณฑ์ แนวปฎิบัติในเรื่องที่เกี่ยวกับรายการที่เกี่ยวโยงกันตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ และ/หรือ ประกาศหรือข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายในเรื่องดังกล่าว รวมถึงมีการกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ และอำนาจอนุมัติการทำรายการสำหรับแต่ละระดับในขอบเขตหรือวงเงินที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังกำหนดไว้ในข้อบังคับบริษัทว่าการอนุมัติหรือทำธุรกรรมใด ให้กรรมการผู้มีอํานาจลงลายมือชื่อผูกพันบริษัทนั้น ให้กรรมการ 2 คนลงลายมือชื่อร่วมกัน โดยมีกรรมการบางท่านเป็นกรรมการมืออาชีพที่มีความเป็นอิสระ ทำให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจในการบริหารจัดการ และจากการที่บริษัทยึดถือนโยบายการบริหารงานตามหลักการกำกับและดูแลกิจการที่ดีและตัดสินใจภายใต้ประโยชน์สูงสุดของบริษัทอย่างเคร่งครัด ทำให้ในปี 2565 ที่ผ่านมานี้ บริษัทได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” ห้าตราสัญลักษณ์เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุด จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย บริษัทยังได้รับรางวัลบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG 100) ประจำปี 2565 จากสถาบันไทยพัฒน์ฯ
**ในปีที่ผ่านมาบริษัทไม่มีความเสี่ยงจากคู่ค้า